Samsung Galaxy S8 และ S8+
July 12, 2017
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 2 ยี่ห้อ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ Smart Phone ที่มาแรงในปี 2560 นี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าเครื่อง Smartphone ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมคุณสมบัติตัวเครื่องที่เร็วแรงมากขึ้นกว่าเดิม และฟีเจอร์ยอดเยี่ยมอีกหลายอย่าง ซึ่งการมาของเจ้าเครื่องสองรุ่นนี้ น่าสนใจว่า จะสามารถทำลายสถิติยอดขายสูงสุดเดิมที่ Samsung Galaxy s7 เคยทำไว้ได้หรือไม่ สำหรับประเทศไทย Samsung ได้เปิดลงทะเบียนจองเครื่องล่วงหน้าอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 เมษายน 2560 ที่จะถึงนี้ มาลองดูคุณสมบัติคร่าวๆ ของเครื่องกันบ้างว่ามีอะไรบ้าง Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ ดีไซน์งานดีจนต้องอยากได้ Samsung Galaxy S8 มีขนาดตัวเครื่อง 148.9×68.1×8.0 มิลลิเมตร น้ำหนัก 155 กรัม หน้าจอแสดงผลเป็นรูปทรงขอบโค้งแบบไร้ขอบ Super AMOLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2960 x 1440 pixel ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 หรือ Samsung Exynos 8895 หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4 ขนาด 4GB ส่วนความจำภายในแบบ UFS 2.1 ขนาด 64GB สำหรับ Samsung Galaxy S8+ โดยรวมแล้ว มีสเปกใกล้เคียงกัน เพียงแต่มีการเพิ่มพื้นที่ใช้งานของหน้าจอมากขึ้นจากรุ่น S8 ซึ่งเดิมอยู่ที่ 5.8 นิ้ว ส่วนรุ่น S8+ อยู่ที่ 6.2 นิ้ว มีกระจกสุดแกร่งอย่าง Gorilla Glass 5 ช่วยป้องกันตัวเครื่องด้านหน้าและด้านหลัง ต้องยอมรับว่า จากสเปกเครื่องทั้งสองรุ่นที่มองเห็นด้วยตานั้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปชัดเจนที่สุดในสองรุ่นนี้ก็คือการดีไซน์รูปทรงใหม่ให้เป็นจอไร้ขอบ เป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่ส่วนหน้าจอให้ใหญ่มากขึ้นเต็มพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมด แล้วยังถอดปุ่มทั้งหมดออกจากพื้นที่หน้าจอด้วย ทำให้เป็นเครื่องไร้ปุ่มด้านหน้า แล้วย้ายส่วนเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลังเครื่องแทน เน้นความผอมเพรียวยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นที่สำคัญมากอีกอย่างคือ การทำเป็น Multi-Window ทำให้สามารถแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วนพร้อมกันได้ ใช้งาน Application ได้พร้อมกันสองอัน เช่น ดูหนัง และเปิดแชท ไปพร้อมกันได้ แล้วยังมีนวัตกรรมใหม่ที่ติดเพิ่มมาคือ ตัวสแกนม่านตา ซึ่งเดิมทีเปิดตัวมาพร้อมกับรุ่น Note7 แต่ได้มีการปรับปรุงระบบใหม่ โดยคราวนี้สามารถสแกนเพื่อจดจำม่านตา ใบหน้า และลายนิ้วมือได้พร้อมกัน เป็นการยืนยันตัวตน เสมือนระบบรักษาความปลอดภัยชั้นสูงในภาพยนตร์ ระบบนี้เพื่อป้องกันการแฮกกิ้งสำหรับข้อมูลส่วนตัวหรือธุรกรรมทางการเงินในเครื่องด้วย นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ซึ่งเป็นตัวผู้ช่วยแบบ A.I. ที่พิเศษมากกว่าปกติ ด้วย Function ทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ Bixby (Vision) – วิเคราะห์เนื้อหาด้วยภาพ สำหรับค้นหาข้อมูลต่างๆ เช่นข้อมูลสินค้า งานแปลตัวหนังสือ สถานที่ต่างๆ เป็นต้น แล้วข้อมูลเหลานั้นก็จะฝังไว้ในกล้องด้วย ทำให้เมื่อใช้เครื่องถ่ายภาพแล้ว ก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาว่าจะทำอะไรต่อให้เราเลือก Bixby (Home) – รวมข้อมูลทุกอย่างไว้ในแหล่งเดียว เช่น ข้อมูลข่าวสาร Application ที่ใช้งานบ่อย โดยจะวิเคราะห์จากการใช้งานทั่วไปของเราเอง ตรงนี้จึงเปรียบเสมือนหน้าบ้านของเรา Bixby (Reminder) – ช่วยเตือนเรื่องสำคัญที่เราบันทึกไว้ Bixby (Voice) – ระบบตอบสนองการทำงานด้วยคำสั่งเสียง จุดเด่นอีกด้านของระบบประมวลผลคือ การใช้งานชิปเซ็ตประมวลผล Samsung Exynos 8895 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 10nm FinFET ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก ทำให้ประมวลผลภาพกราฟฟิกได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นถือว่าเป็นการพลิกโฉมการออกแบบรุ่นใหม่ด้วยหน้าจอแบบไร้ขอบ (Bezel-Less) และไร้ปุ่มกด ขนาดกะทัดรัด ซึ่งต้องดูผลตอบรับของผู้ใช้ต่อไปครับ